การใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียหายในคดีอาญา
หากท่านติดตามข่าวสารทางสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์
วิทยุ
โทรทัศน์
จะพบว่าในแต่ละวันจะมีข่าวอาชญากรรม
และการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่งย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เคราะห์ร้ายผู้ตกเป็นเหยื่อแห่งผลของการกระทำนั้น ซึ่งกฎหมายเรียกว่า ผู้เสียหาย[๑] และรัฐมีหน้าที่ต้องนำตัว ผู้กระทำผิดมาลงโทษเพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โทษตามประมวลกฎหมายอาญาที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิด มี
๕ ประเภท
คือ ประหารชีวิต
จำคุก
กักขัง ปรับ
และ ริบทรัพย์สิน นอกจากการลงโทษทางอาญาแก่ผู้กระทำผิดแล้ว ผู้เสียหายยังมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งที่ตนได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดอาญาอีกด้วย
ก่อนวันที่ ๓๑
ธันวาคม
๒๕๔๘
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากการกระทำความผิดอาญาไว้
๒
แนวทาง
คือ
แนวทางที่ ๑. คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผู้เสียหายจะฟ้องร้องต่อศาลซึ่งพิจารณาคดีอาญาหรือต่อศาลที่มีอำนาจชำระคดีแพ่งก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา ๔๐[๒]
แนวทางที่ ๒. คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์เรียกทรัพย์สิน หรือ ราคา แทน
ผู้เสียหาย ในฐานความผิด ๙ ฐาน คือ
ลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์
ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอก หรือรับของโจร
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.)มาตรา ๔๓[๓]
เนื่องจากแนวทางทั้ง
๒ ประการข้างต้น ยังไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อน
เสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิดหรือผู้เสียหายได้
เพราะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น
กรณีการใช้สิทธิฟ้องร้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๔๐
ผู้เสียหายต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น
ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล
อีกทั้งการพิจารณาคดีต้องใช้เวลาในการพิจารณายาวนาน
ผู้เสียหายอาจไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหายได้ทันท่วงที หรือ กรณีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามที่ระบุไว้ใน
ป.วิ.อ. มาตรา ๔๓
กฎหมายกำหนดให้อัยการเรียกร้องค่าเสียหายที่เป็นทรัพย์สินหรือราคาที่สูญเสียไปจากการกระทำความผิดโดยตรงเท่านั้น
จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายอย่างอื่น เช่น
ดอกเบี้ย ค่าแรงงาน ค่าจ้าง
ไม่ได้
เพราะกฎหมายถือว่าค่าเสียหายดังกล่าวมิใช่ทรัพย์หรือราคาที่สูญเสียไปจากการกระทำผิด
หากผู้เสียหายต้องการเรียกร้องเอาค่าเสียหายดังกล่าวคืนต้องไปฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาตาม
ป.วิ.อ.มาตรา ๔๐
ต่อไป อีกทั้งฐานความผิดที่กฎหมายให้อำนาจแก่พนักงานอัยการเรียกเอาทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายก็กำหนดไว้เพียง
๙ ฐานความผิด
เท่านั้นหากเป็นความผิดฐานอื่นนอกจากนี้แล้วพนักงานอัยการไม่สามารถเรียกร้องแทนผู้เสียหายได้
อย่างไรก็ดีความเสียหายที่ผู้เสียหายได้รับในคดีอาญามิได้จำกัดเฉพาะฐานความผิดตามที่ระบุไว้ใน
ป.วิ.อ. มาตรา ๔๓
เท่านั้น และความเสียหายที่ผู้เสียหายได้รับมิได้เป็นเรื่องทรัพย์สินเท่านั้น
เพราะยังมีความผิดและความเสียหายเพราะเหตุได้รับอันตรายต่อ ชีวิต
ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงและทรัพย์สินอีกหลายฐานความผิดที่ผู้เสียหายควรได้รับการเยียวยา
ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่เขาสูญเสียไปโดยตรงเท่านั้น
แม้ผู้เสียหายจะมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๒๐ ประกอบมาตรา ๔๓๘[๔] ก็ตาม ผู้เสียหายต้องไปยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและได้รับการเยียวยาล่าช้า
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้นนับแต่วันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๔๘ เป็นต้นไป ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาทุกฐานความผิดบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เป็นผลจากการกระทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่
ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง และทรัพย์สิน ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำคัญตาม มาตรา ๔๔/๑[๕] ดังนี้
๑. ผู้เสียหายที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
แก่ตนได้ต้องเป็นคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์หรือคดีที่ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการเท่านั้น
หากเป็นกรณีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๘ (๒) ผู้เสียหายไม่สามารถยื่นคำร้องตามมาตรา ๔๔/๑ ได้
ทั้งนี้เนื่องจากหากผู้เสียหายยื่นฟ้องคดีเองย่อมมีอำนาจร้องขอบังคับให้ชดใช้ตามมาตรา
๔๐ ได้อยู่แล้ว ในกรณีผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๕ (๒)[๖] แม้จะมีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสียหายได้
ถ้าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนก็ไม่สามารถยื่นคำร้องขอต่อศาลได้ เช่นกัน
๒. คำร้องขอค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๔๔/๑ สามารถยื่นต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญา ก่อนเริ่มทำการสืบพยาน
หรือในกรณีที่ไม่มีการสืบพยานให้ยื่นคำร้องก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีโดยคำร้องดังกล่าวต้องเป็นคำขอบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทำผิดของจำเลยในคดีอาญาเท่านั้น
จะเป็นคำขอบังคับอย่างอื่น เช่น
ร้องขอบังคับให้จำเลยรับบุตรของผู้เสียหายซึ่งถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราเป็นบุตรไม่ได้และคำขอต้องไม่ขัดแย้งกับคำฟ้องในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์
๓. ค่าสินไหมทดแทนที่เรียกร้องนั้นต้องมิได้เกิดจากการกระทำเพื่อชำระหนี้อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดี
เช่น การล่อลวง ขู่เข็ญ สำคัญผิดในข้อเท็จจริง
หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้นด้วย
อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องเกิดจากการกระทำของจำเลยในคดีอาญาที่ยื่นคำร้องขอด้วย
๔.
สิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนที่สามารถร้องขอบังคับได้
ต้องเป็นความเสียหายที่ได้รับอันเนื่องมาจากเหตุที่ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่ ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย
ชื่อเสียง
หรือได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สินเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่ออนามัยด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สินนั้น เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดและสามารถตรวจสอบด้วยพยานหลักฐานได้ไม่ยาก แต่สำหรับความเสียหายต่ออนามัยนั้นการพิสูจน์ว่าได้รับอันตรายต่ออนามัยหรือไม่เป็นเรื่องที่ยากต่อการพิสูจน์ และอาจทำให้กระบวนการพิจารณาคดีอาญานั้นเป็นไปด้วยความล่าช้า
ตารางแสดงสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียหายในคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดี
|
ผู้มีสิทธิเรียกร้อง
|
ฐานความผิด
|
ค่าเสียหาย
|
ข้อดี/ข้อเสีย
|
๑. คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา (ม.๔๐)
|
ผู้เสียหายหรือพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล
|
เฉพาะฐานความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
|
ชีวิต ร่างกาย อนามัย
จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน
|
ข้อดี
-
สามารถเรียกร้องค่า
เสียหายได้ทุกฐานความผิดและเพื่อความเสียหายทุกประเภท
ข้อเสีย
-
ใช้ระยะเวลาการ
พิจารณายาวนาน
-
เสียค่าใช้จ่าย เช่น
ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายความ
|
๒.อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา (ม.๔๓)
|
พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอต่อศาลไปพร้อมกับคำฟ้อง
|
ลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอก รับของโจร
|
เรียกทรัพย์สิน หรือราคาที่สูญเสียไปจากการกระทำผิด
|
ข้อเสีย
- จำกัดเฉพาะฐานความผิดและค่าเสียหายที่กฎหมายกำหนด
|
๓. อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา(ม.๔๔/๑)
|
ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอต่อศาลที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์
|
ฐานความผิดเกี่ยวกับ ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน
|
ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ ชีวิต ร่างกาย จิตใจ
เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือความเสียหายในทางทรัพย์สิน
|
ข้อดี
- สามารถเรียกร้องค่า
เสียหายได้ครบทุกฐานความผิดและเพื่อความเสียหายทุกประเภท
-
ผู้เสียหายสามารถเรียก
ค่าเสียหายได้รวดเร็ว วิธีการไม่
ยุ่งยาก และไม่เสียค่าใช้จ่าย
|
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของการยื่นคำร้องขอค่าสินไหมทดแทนแนวทางใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๔๔/๑ ที่ได้กล่าวมานั้น
มีเจตนารมณ์เพื่อมุ่งให้ความคุ้มครองแก่ผู้เสียหายในคดีอาญาสามารถใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่ตนได้รับในทางแพ่งไปพร้อมกับการดำเนินคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องทำให้ผู้เสียหายไม่ต้องเป็นโจทก์ฟ้องในคดีแพ่งอีก
เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยาจากความเสียหายได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว ยิ่งขึ้น.
[๑] ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา “ มาตรา ๔
“ผู้เสียหาย” หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๔ ,๕ และ ๖
[๓] ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา “ มาตรา ๔๓ คดีลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกหรือรับของโจร ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องทรัพย์สินหรือราคาที่เขาสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดคืน เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญา ก็ให้เรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายด้วย ”
[๔] ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ “ มาตรา ๔๓๘ วรรคสอง อนึ่ง ค่าสินไหมทดแทนนั้นได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิดหรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น รวมทั้งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย ”
[๕]
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
“ มาตรา ๔๔/๑
ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะ
เรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียงหรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนก็ได้
การยื่นคำร้องตามวรรคหนึ่ง ผู้เสียหายต้องยื่นคำร้องก่อนเริ่มสืบพยาน ในกรณีที่ไม่มีการสืบพยานให้ยื่นคำร้องก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี และให้ถือว่าคำร้องดังกล่าวเป็นคำฟ้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และผู้เสียหายอยู่ในฐานะโจทก์ในคดีส่วนแพ่งนั้น ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวต้องแสดงรายละเอียดตามสมควรเกี่ยวกับความเสียหายและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่เรียกร้อง หากศาลเห็นว่าคำร้องนั้นยังขาดสาระสำคัญบางเรื่อง ศาลอาจมีคำสั่งให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คำร้องตามวรรคหนึ่งจะมีคำขอประการอื่นที่มิใช่คำขอบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลยในคดีอาญามิได้
และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับคำฟ้องในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และในกรณีที่พนักงานอัยการได้ดำเนินการตามความในมาตรา ๔๓ แล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องตามวรรหนึ่งเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือราคาทรัพย์สินอีกไม่ได้ ”
MGM Grand Las Vegas - Mapyro
ตอบลบThe 울산광역 출장샵 MGM Grand 영주 출장마사지 Hotel & Casino, Hotel & 성남 출장샵 Spa is a luxury 4,716-room 상주 출장샵 hotel located in Las Vegas 정읍 출장안마 Strip, just off the famous Fashion Show Mall. The property also features